ในปี 2004 เทคโนโลยีใหม่ที่ชื่อว่า Analog Digital Hybrid (ADH) ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยเป็นการหลอมรวมจุดเด่นของเทคโนโลยีภาคขยายเสียงแบบอะนาล็อก (Analog) และดิจิทัล (Digital) เข้าด้วยกันอย่างลงตัว แนวคิดนี้ช่วยให้ได้ทั้งคุณภาพเสียงชั้นเยี่ยมจากวงจรอะนาล็อก และประสิทธิภาพสูงจากวงจรดิจิทัล ซึ่งช่วยแก้ปัญหาข้อจำกัดของแอมป์คลาสเอแบบดั้งเดิมได้อย่างชัดเจน
ลองนึกถึงระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ในรถยนต์ ผู้ขับสามารถควบคุมพวงมาลัยได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องออกแรงมาก เพราะมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยสนับสนุนการหมุนพวงมาลัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับ ADH ที่ใช้วงจรคลาสเอเพื่อคงความแม่นยำของเสียง และให้วงจรดิจิทัลช่วยเพิ่มพลังงานที่ลำโพงต้องการ
ADH ใช้วงจรแบบ Class-D ในการขยายสัญญาณความถี่ต่ำและกลาง ซึ่งต้องการกำลังขยายสูง ในขณะที่ใช้วงจรแบบ Class AB สำหรับความถี่สูงที่ต้องการความละเอียดและความใสของเสียง การทำงานร่วมกันนี้ทำให้ได้:
เนื่องจากใช้วงจร Class-D ในย่านความถี่ที่ต้องการกำลังขยายสูง ทำให้ประหยัดไฟมากกว่าวงจรแบบ Class AB ทั่วไปถึง 50%
ด้วยการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้เกิดความร้อนน้อย จึงไม่จำเป็นต้องใช้พัดลมระบายความร้อน ส่งผลให้ทำงานเงียบและมีอายุการใช้งานยาวนาน
บริษัท Devialet จากฝรั่งเศสคือผู้พัฒนาเทคโนโลยี ADH จนสำเร็จ โดยใช้เวลาวิจัยและพัฒนากว่า 4 ปี ปัจจุบันเทคโนโลยีนี้ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในสินค้าระดับไฮเอนด์ เช่น
ทั้งสองรุ่นนี้ไม่เพียงแต่ให้คุณภาพเสียงระดับพรีเมียม แต่ยังเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยี ADH ได้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานของวงการเครื่องเสียงอย่างแท้จริง
โดยสรุปแล้วเทคโนโลยี ADH ไม่ได้เป็นเพียงนวัตกรรม แต่เป็นการปฏิวัติวงการแอมป์เสียงอย่างแท้จริง ด้วยการรวมข้อดีของวงจรอะนาล็อกและดิจิทัล คุณจึงมั่นใจได้ว่า ADH คือคำตอบสำหรับคนที่ต้องการทั้งคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมและพลังเสียงที่เหนือชั้น หากคุณกำลังมองหาแอมป์หรือระบบเสียงใหม่ ลองเปิดโอกาสให้ ADH แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง!